พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน

พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน

พาชมศิลปะ ความงามของ พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน พร้อมทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

Time reading :: 7 minutes

การได้มองพระพุทธรูปหรือระลึกถึงพุทธะ ก่อนที่จะสวดมนต์หรือนั่งสมาธินั้น จะทำให้จิตของเราตั้งมั่น สงบ และปฏิบัติได้ดียิ่งขึ้น ผู้เขียนได้เขียนเรื่องราวของ พุทธศิลป์ ของพระอวโลกิเตศวร กวนอิมโพธิสัตว์ เมื่อตอนก่อนหน้านี้ และครั้งนี้ตั้งใจจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับ “พระพุทธรูป” ในประเทศต่างๆ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดผู้เขียนเรียบเรียงมานั้น เป็นการสรุปสั้นๆ ไม่ลงลึกรายละเอียดเรื่องประวัติศาสตร์ อยากให้อ่านกันเพลินๆ

พระพุทธรูป เริ่มต้นมาจากไหน ?

พระอานนท์ได้ทูลถามกับพระพุทธเจ้าว่าถ้าพระองค์ไม่อยู่เป็นที่พึ่งแล้ว เราจะพึงไปที่ใด ซึ่งคำตอบก็คือ สังเวชนียสถาน 4 แห่ง คือ สถานที่ประสูติ (ลุมพินีวัน) สถานที่ตรัสรู้ (พุทธคยา) สถานที่ปฐมเทศนา (พาราณสี) และ สถานที่ปรินิพพาน (กุสินารา) ดังนั้นคนสมัยก่อนก็เลยเก็บเอา ดิน น้ำ ใบโพธิ์ จากสถานที่เหล่านั้น นำมาบูชา เหตุที่ไม่สร้างรูปเหมือนพระพุทธเจ้าตอนนั้น เป็นเพราะว่าถ้าสร้างแล้วไม่เหมือนองค์จริงจะเป็นบาป จึงสร้างเป็นลักษณะสัญลักษณ์แทน

ธรรมจักรและกวางหมอบเป็นรูปเคารพในพุทธศาสนาเชิงสัญลักษณ์แทนปางปฐมเทศนา สถานที่วัด Namobuddha ประเทศเนปาล

พระพุทธรูป รูปแรก เกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้ามิลินท์ เรียกว่า เป็นแบบคันธารราฐ (คันธาระ)  ลักษณะเหมือนเทวรูปกรีก ใบหน้าเป็นฝรั่ง เหตุเพราะพระเจ้ากนิษกะ ทรงทราบว่าชาวโยนก (กรีก) สร้างรูปเทวดาบูชา พระองค์นับถือพระพุทธเจ้า จึงสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาบูชาบ้าง ประเทศอื่นๆ เห็นเป็นแบบอย่างจึงสร้างต่อกันมา และมีการแก้ไขมาเรื่อยๆ แล้วแต่จินตนาการของช่างในแต่ละยุค

หลักการสร้างพระพุทธรูปนั้น ต้องมีตำราเทียบเคียง คือ สร้างตามลักษณะพระรูปกายของพระพุทธเจ้า  หรือตามแบบมหาบุรุษลักษณะ ๓๒

1. ปากีสถาน – กำเนิดพระพุทธรูป

รูปปั้นคันธาระที่มีรายละเอียดสมจริง ตามอิทธิพลของกรีก รูปปั้นของพระพุทธเจ้าในฐานะพระโพธิสัตว์ ผู้ที่อยู่บนเส้นทางสู่ความเป็นพุทธะ ประดับด้วยเพชร พลอย ก่อนที่จะสละราชสมบัติ และรูปแกะสลักของพระพุทธเจ้าที่มีผมจัดเป็นลอนหยักและมีผ้าคลุม ซึ่งชวนให้นึกถึงเสื้อคลุมโรมัน มีความคล้ายคลึงกับรูปปั้นกรีกและโรมัน

พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
รูปปั้นคันธาระ เศียรพระโพธิสัตว์ ที่มาของรูป wikimedia commons
พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
รูปปั้นคันธาระ พุทธรูปยืน สมัย Kushan ศตวรรษที่ 1–2 ปากีสถาน ที่มาของรูป wikimedia commons

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่พุทธศาสนาแถบปากีสถาน อัฟกานิสถาน รุ่งเรืองมาก ในบันทึกของพระถังซัมจั๋ง กล่าวว่า  เป็นเมืองที่มีพระพุทธรูปศิลปะคันธาระ มีพิพิธภัณฑ์ แหล่งโบราณคดีทางพุทธศาสนา ท่านไปเยี่ยมชมสถูปหลายแห่ง ซึ่งมีอารามเก่าแก่กว่า 1,400 แห่ง พระสงฆ์ 18,000 รูป

พระถังซัมจั๋ง
เส้นทางที่พระถังซัมจั๋งเดินทาง ได้แก่ พรมแดนของประเทศ คีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan) -> คาซัคสถาน (Kazakhstan) -> อุซเบกิสถาน (Uzbekistan) -> อัฟกานิสถาน Afghanistan -> ปากีสถาน Pakistan

2. อัฟกานิสถาน – พระพุทธรูปบามิยัน

พระพุทธรูปเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งคือ พระพุทธรูปแห่งบามิยาน ซึ่งคาดว่าสร้างในสมัยคุปตะ ของอินเดีย ในบันทึกของพระถังซัมจั๋งได้เขียนไว้ว่า พระพุทธรูปนั้นเหลืองอร่ามไปด้วยทองคำ และมีพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป อาศัยอยู่ที่นี่ ในปี ค.ศ. 1221 เจงกีสข่านได้รุกรานหุบเขาบามิยัน กวาดล้างประชากรทั้งหมด แต่ไม่ได้ทำลายพระพุทธรูป จนกระทั่งจักรพรรดิโมกุลแห่งออรังเซ็บ ทรงพยายามทำลายพระพุทธรูปโดยใช้ปืนใหญ่ ด้วยกาลเวลาผ่านไป สภาพองค์พระพุทธรูปได้ชำรุดทรุดโทรม สูญเสียใบหน้า และในที่สุดก็ถูกกลุ่ม ตอลิบาน ถล่มในเดือนมีนาคม 2544

พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
พระพุทธรูปบามิยัน รูปจาก phs aparthistory

3. อินเดีย

พระพุทธรูปที่สร้างในยุคแรกๆ ของอินเดีย พระพักตร์จะละม้ายคล้ายคนอินเดีย พระเกศาจะเรียบ ไม่มีขมวด ต่อมาในยุคคุปตะ เริ่มมีการสร้างโดยพระเกศาขมวดเป็นก้นหอย จีวรเป็นริ้วบาง แนบสนิทกับลำตัว ถือว่าเป็นยุคที่มีการสร้างพระพุทธรูปที่ได้สัดส่วนงดงาม สวยงามมากที่สุดในสมัยหนึ่งของอินเดีย หลังจากยุคนี้ช่างก็เริ่มมาสร้างเทวรูปของศาสนาฮินดู และศาสนาเชน เป็นส่วนใหญ่

พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
พระพุทธรูปยืน สมัยคุปตะ (ภาพขยายพระพักตร์) ที่พิพิธภัณฑ์มถุรา อินเดีย ที่มาของรูป Wikipedia

ถ้ำอชันตา-เอโลรา จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาเฟื่องฟู และความเสื่อมสลาย ของแต่ละศาสนา จากทิศใต้เป็นกลุ่มถ้ำพุทธศาสนา ถัดมาเป็นกลุ่มถ้ำฮินดู และเหนือสุดเป็นกลุ่มถ้ำศาสนาเชน

พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
ถ้ำที่ 26 แกะสลักภาพปรินิพพาน

ในพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า วัดมหาโพธิเป็นวัดแห่งแรกที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง อายุประมาณ 1400 ปี พระพุทธเจ้าปางมารวิชัยที่เป็นประธาน เรียกว่า พระพุทธเมตตา ซึ่งพระดัชนีชี้ไปที่ดิน ให้พระแม่ธรณีเป็นพยานถึงการตรัสรู้ สร้างด้วยหินแกรนิตสีดำแล้วทาทองทับทั้งองค์ ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ตั้งแต่ปลายสมัยคุปตะตอนปลาย และถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาสถาปัตยกรรมตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา

พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
พระพุทธเมตตา ณ พุทธคยา

4. ทิเบต และ เนปาล

ก่อนหน้านั้นชาวทิเบตนับถือลัทธิ บอน (BON) ซึ่งเชื่อในเรื่องภูติผีปีศาจ ทุกสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติล้วนแต่มีจิตวิญญาณสิงสถิตอยู่ ศิลปะทิเบตใช้ตัวอักษรหรือคุณสมบัติต่างๆ อันได้แก่ สี ท่าทาง การแต่งกาย และการถือวัตถุสัญลักษณ์ งานศิลปะที่โดดเด่นที่สุดของทิเบต คือ ภาพวาดทังกา จิตรกรรมทิเบต นามธรรมพื้นฐานหรือแนวความคิด มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เพื่อให้บรรลุการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณ

ถ้าพูดถึงทิเบต ก็จะต้องนึกถึงวัดโจคัง เป็นสถานที่แรก Jowo Shakyamuni หรือ Jowo Rinpoche (Rinpoche หมายถึง “ผู้มีค่า” ในภาษาทิเบต) พระพุทธรูปนั่งบนบัลลังก์ทองคำ เสื้อคลุมประดับด้วยเพชรพลอย เชื่อกันว่าพระโจโว แกะสลักโดย พระวิศวกรรม Vishwakarma (เทพช่างฝีมือ) ว่ากันว่าพระแก้วมรกตในประเทศไทยก็แกะโดยพระวิศวกรรมด้วยเหมือนกัน

พระวิษณุกรรม หรือ พระวิศวกรรม เป็นเทพที่ช่างไทยแขนงต่าง ๆ ให้ความเคารพบูชาพระวิศวกรรมในฐานะครูช่าง หรือเทพแห่งวิศวกรรมของไทย โดยเรามักพบเห็นรูปจำลององค์ท่านได้บ่อย ๆ ตามสถานศึกษาทางช่างทุกสถาบัน
พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
ทิเบต – วัดโจคัง พระประธาน รูปภาพจาก ziyi

พระโจโวศากยมุนี สูงประมาณ 3 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่เจ้าหญิง เหวินเฉิง พระราชนัดดาในองค์พระจักรพรรดิ์ถังไท่จง ที่เดินทางไกลมาแต่งงานกับกษัตริย์ทิเบตพระเจ้าซรอนซันกัมโป ได้นำพระพุทธรูปมาจากจีนด้วย ซึ่งเป็นการอภิเษกสมรสเพื่อสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีระหว่างจีนกับทิเบต

ในขณะที่ฟากฝั่งเนปาล เจ้าหญิงภีกุฏิ เป็นราชินีของจักรพรรดิองค์แรกสุดแห่งทิเบต ได้นำพระพุทธรูปเนปาล มาเป็นส่วนหนึ่งของสินสอดทองหมั้นในการอภิเษกสมรส ศิลปะสไตล์เนปาลมีอิทธิพลอย่างมากต่อศิลปะของจีนและทิเบต เนื่องจากทั้งสองประเทศนำเข้างานศิลปะและศิลปินจากเนปาลเพื่อประดับวัดและอารามของตน และพุทธศาสนาในทิเบตค่อนข้างคล้ายกับเนปาล เพียงแต่หลักปฏิบัติในทิเบตค่อนข้างแตกต่างจากจากที่อื่น เนื่องจากอิทธิพลของพุทธศาสนาตันตระ

พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
เนปาล – พระพุทธรูปใน สวยัมภูนาถ ประเทศเนปาล วัดตั้งอยู่บนยอดเขาในหุบเขากาฐมาณฑุ รูปภาพจาก Claudio

5. จีน

พุทธศิลป์ ที่เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่โบราณ หลายๆ แห่งในประเทศจีนนั้น ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปแกะสลักในถ้ำ ซึ่งเป็นงานปะติมากรรมอันน่าทึ่ง และล้ำค่า น่าอัศจรรย์มาก

  • ถ้ำหลงเหมิน

ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำยี่ทางตอนใต้ของเมืองหลวงโบราณของลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน ประกอบด้วยถ้ำและโพรงมากกว่า 2,300 แห่งที่แกะสลักไว้บนหน้าผาหินปูนสูงชันยาว 1 กม. ประกอบด้วยรูปปั้นหินเกือบ 110,000 องค์ พระเจดีย์มากกว่า 60 องค์ งานประติมากรรมในถ้ำแห่งนี้ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลา 150 ปี ประติมากรรมขนาดยักษ์ในถ้ำ Fengxiansi ที่รังสรรค์ โดยศิลปินจากภูมิภาคต่างๆ รูปแบบศิลปะประติมากรรม ได้แก่ “สไตล์จีนตอนกลาง” และ “รูปแบบราชวงค์ถัง” มีอิทธิพลอย่างมากในประเทศและทั่วโลก และมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาศิลปะประติมากรรมในประเทศอื่นๆ ในเอเชีย

พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
พระไวโรจนะ

  • เนื่องจากการสร้างพระพุทธรูปนั้นเกิดจากจิตนาการและความเชื่อผสมกับศิลปะในแต่ละท้องที่ นอกจากพระพุทธรูปที่เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันคือ พระศากยมุนี แล้วนั้น หากเราไปยังพื้นที่ที่นับถือพุทธศาสนามหายาน เราจะเจอว่า มีการสร้างพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆอยู่ด้วย โดยเฉพาะพระไวโรจนพุทธะ พุทธศาสนามหายานเชื่อว่าพระพุทธเจ้านั้นมีจำนวนมหาศาล องค์พระผู้กำเนิดแห่งพระพุทธเจ้าทั้งมวลนั้น คือ พระอาทิพุทธะ


  • พระไวโรจนพุทธะ (Vairocana Buddha) เป็นพระธยานิพุทธะ 1 ใน 5 องค์ ของนิกายวัชรยาน ทรงเป็นประธานของพระพุทธะทั้ง 5 หมายถึงปัญญาอันสูงสุด ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Dainichi Nyorai (“Great Sun Buddha”)
    • ถ้ำหยุนกัง เมืองต้าถง มณฑลซานซี

    มีถ้ำ 252 ถ้ำและรูปปั้นกว่า 51,000 รูป มีชื่อเสียงในด้านวัดถ้ำที่แกะสลักอย่างวิจิตรงดงามและประติมากรรมหลากสี พระใหญ่สูงประมาณ 13 เมตร มีพระพักตร์ที่อวบอิ่ม คอหนา ตายาว จมูกแหลมคม ริมฝีปากที่ยิ้มแย้มเล็กน้อย และไหล่กว้าง

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    พระพุทธรูปในถ้ำหยุนกัง
    • พระใหญ่เล่อซาน

    พระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก พระใหญ่ถูกแกะสลักจากเนินเขาในศตวรรษที่ 8 องค์พระแกะสลักขึ้นมาอย่างประณีต ทุกเส้นตามส่วนต่างๆของร่างกายมีสมมาตรที่ได้สัดส่วนเหมือนคนจริงๆ ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบคุปตะ พระพักตร์อิ่มเอิบ เปี่ยมด้วยเมตตา

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    พระใหญ่เล่อซาน
    • ผาหินแกะสลักแห่งต๋าจู๋ Dàzú Shíkè

    มรดกโลกตั้งอยู่ในเขตนครฉงชิ่ง พระพุทธรูปเน้นความสมจริง ความปราณีต อ่อนช้อย พริ้วไหวและการแต่งแต้มสีสันที่วิจิตร ผาแห่งนี้เด่นในความงดงามของงานแกะสลักทั้งทางพุทธศาสนา ลัทธิขงจื๊อ ลัทธิเต๋า 

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    Dazu Rock Carvings สร้างตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9 จนถึง13 ภาพโดย Angel Lahoz

    6. ญี่ปุ่น

    พระพุทธศาสนาเข้ามาประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 6 เดิมศาสนาพื้นเมืองของญี่ปุ่นคือศาสนาชินโต แต่ปัจจุบันพุทธศาสนาและศาสนาชินโตหลอมรวมกัน ผู้เขียนได้เดินทางไปไหว้พระใหญ่สองแห่งคือและพระใหญ่ พระใหญ่ไดบุตสุ เมืองคามาคุระ และ เมืองนารา สำหรับความแตกต่างของพระใหญ่ทั้งสองที่นี้ หากใครสนใจศึกษาเพิ่มเติม ผู้เขียนขอแนะนำ link นี้ https://www.silpa-mag.com/history/article_53234

    วัดโทไดจิ ได้รับการบันทึกว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นพระปฏิมาแทนองค์พระไวโรจนพุทธเจ้า  ว่ากันว่าพระใหญ่ของวัดโทไดจิสร้างตามแบบในเมืองลั่วหยาง ประเทศจีน

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    พระไดบุตสึในเมืองนารา Tōdai-ji เป็นรูปของพระพุทธเจ้าไวโรจนะ ภาพจาก SG

    วัดโคโตกูอิง ในคามาคุระ เป็นพระไดบุตสุ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปอมิตาภะ หล่อจากบรอนซ์ตั้งอยู่กลางแจ้ง เป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น พระพุทธรูปองค์นี้สูง 13.35 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่เป็นอันดับสองในญี่ปุ่น รองจากพระพุทธรูปในวัดโทไดจิ 

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    พระไดบุตสึในเมืองคามาคุระ เป็นรูปของพระอมิตาภะ องค์พระข้างในกลวงสามารถเดินเข้าไปด้านในได้ ภาพจาก Henry Andrew

    ไดบุตสึ (Daibutsu) หรือ “พระใหญ่” เป็นศัพท์ภาษาญี่ปุ่น มักใช้อย่างไม่เป็นทางการสำหรับพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ที่เก่าแก่ที่สุดคือที่อาซูกะ-เดระ (ค.ศ. 609) และที่รู้จักกันดีที่สุดคือที่โทไดจิ ในจังหวัดนาระ
    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ศรีศากยมุนี  พระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น วัดอาซูกะ-เดระ หรือ วัดอาสุกะ(Asukadera Temple)  ภาพจาก fabianp

    นอกจากพระพุทธรูปเก่าแก่แล้ว ญี่ปุ่นยังมีพระพุทธรูปที่เราไม่อาจจะมองเห็นได้ทั้งองค์ สถานที่แห่งนี้เรียกว่า เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) ในสุสาน Makomanai Takino เดิมทีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ที่สุสานนี้ประมาณสิบกว่าปี ซึ่งผู้คนผ่านไปมาก็จะเห็นเป็นองค์เต็มตัวปกติ สถาปนิคชื่อดังของญี่ปุ่นได้ออกแบบสถานที่แห่งนี้ใหม่ เพื่อให้พระพุทธรูป Atama Daibutsu (The Buddha’s Head) มีความโดดเด่น ในความซ่อนเร้น ซึ่งถ้าเรามองจากด้านนอกจะเห็นแต่เพียงพระเศียรเท่านั้น นับว่าเป็นภาพที่แปลกตามาก เป็นความคิดสร้างสรรค์ ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูมีเสน่ห์ และกลมกลืนกับธรรมชาติมาก

    พระ Atama Daibutsu ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก ในช่วงฤดูหนาวจะเห็นหิมะขาวโพลนอยู่บนพระเศียร ภาพจาก Tim Tram
    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    มุมมองจากด้านใน ภาพจาก Mike W

    7. พม่า

    พระพุทธรูปพม่าระยะแรกได้รับอิทธิพลจากอินเดียและลังกา  ศิลปะสมัยพุกาม และปะไคน์ นิยมทำพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์  พระพุทธรูปทรงเครื่องเหล่านี้สร้างขึ้นตามทัศนคติว่า พระศรีศากยมุนีจำแลงเป็นพระมหาจักรพรรดิ เพื่อโปรดพระมหาชมพู (ในมหาชมพูบดีสูตร) เนื่องพระมหาชมพูเป็นกษัติรย์ที่มีทิฐิมานะมากจึงจำต้องจำแลงมาในลักษณะของพระมหาจักรพรรดิที่ทรงเครื่องราชทับจีวรอยู่

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    พระมหามัยมุนี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแห่งเมียนมา หรือพระเนื้อนิ่ม  เนื่องจากองค์พระถูกปิดทองหนาทับไปมาหลายชั้นเป็นเวลานานจนเนื้อมีลักษณะนุ่มยุ่ยไปทั้งองค์  และไม่สามารถมองเห็นลวดลายของศิลปะบนองค์พระได้ ภาพจาก Myanmar Private Holidays

    พุทธศิลป์ ในสมัยพุกามเป็นวัตถุโบราณที่เป็นที่ต้องการและมีราคาแพงที่สุดในพม่า สถาปัตยกรรมพุกามนั้นถือเป็นยุคทองทางสถาปัตยกรรมพม่า มีคติการสร้างวิหารและเจดีย์โดยความอุปถัมถ์ของกษัตริย์ รวมไปถึงการสร้างขึ้นโดยชนชั้นสูงเพื่อสร้างกุศลบุญแก่ตนเอง ทำให้ดินแดนพุกามกลายมาเป็นที่ตั้งของเจดีย์และวิหารทางพุทธศาสนามากมายกว่า 4,000 องค์ จนเรียกกันว่า “ทะเลเจดีย์” อันเป็นคำกล่าวถึง เมื่อมองจากในระยะไกล

    วัดในพุกาม มักจะประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 4 ทิศ ประกอบไปด้วยพระกกุสันธพุทธเจ้า ประจำด้านทิศเหนือ พระโกนาคมนพุทธเจ้า ประจำด้านทิศตะวันออก พระกัสสปพุทธเจ้า ประจำด้านทิศใต้ และพระโคตมพุทธเจ้า ประจำด้านทิศตะวันตก ชาวพุกามเชื่อว่าเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าในชาติภพต่างๆ

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    พระพุทธรูป วัด Abeyadana Temple ภาพจาก Marco

    ศิลปะพม่า สมัยมัณฑะเลย์ มีลักษณะที่โดดเด่น คือ พระพุทธรูปมีความสมจริงคล้ายมนุษย์ พระเนตรมองตรง คล้ายดวงตาของมนุษย์ พระโอษฐ์มีลักษณะสมจริง มักทำลวดลายพร้อมประดับอัญมณีหรือกระจกสีที่กรอบพระพักตร์และขอบจีวร คล้ายพระพุทธรูปทรงเครื่อง

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน

    ผู้เขียนเคยไปเที่ยวพม่า สิ่งที่น่าแปลกใจคือ ในวัดบางแห่ง คนพม่านั่งปูเสื่อ กินข้าว มากันเป็นครอบครัว เหมือนมาปิคนิค จึงถามไกด์ว่า เค้ามีงานอะไรกันหรือเปล่า ไกด์ยิ้ม และตอบว่า คนพม่าชอบมาวัดกันเป็นปกติ คนพม่านั้นมีความศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ภาพที่ไปพม่าแล้วเห็นคนนั่งสมาธิสวดมนต์ โดยเฉพาะบนพระธาตุอินแขวนตอนกลางคืนท่ามกลางอากาศหนาวเย็นและลมแรง นับว่าเป็นแรงศรัทธาที่ผู้เขียนไม่พบเห็นมาก่อน

    8. มองโกเลีย

    ประชากรส่วนใหญ่ในมองโกเลีย นับถือพุทธนิกายวัชรยานแบบทิเบต ยุคทองของพุทธศาสนาในประเทศมองโกเลีย  ช่วงศตวรรษที่ 19 ประชากรผู้ชาย จำนวนถึงหนึ่งในสามของประเทศ บวชเป็นพระสงฆ์  ในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา มีการนำคัมภีร์ทิเบตศักดิ์สิทธิ์เข้ามาในมองโกเลียจำนวนหลายแสนเล่ม เพื่อแปลเป็นภาษามองโกลหรือถวายให้แก่วัดต่างๆ

    วัดที่ใหญ่ที่สุดคือ วัด  Gandan Monastery ในเมืองอูลานบาตอร์ แต่ถูกปิดไปเนื่องจากทหารโซเวียตได้สั่งทำลายวัดทั่วประเทศ รวมถึงฆ่าพระภิกษุสงฆ์กว่าสามหมื่นรูป หลังจากนั้นจึงได้บูรณะวัดขึ้นมาใหม่ ภายในวัดสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ รูปปั้นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ขนาดใหญ่ และรอบๆ นั้นจะมีพระพุทธรูปองค์เล็กวางอยู่อยู่ในตู้จำนวนมาก

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    พระพุทธรูปองค์เล็ก ในวัด Gandan ภาพจาก Tyler Kellen & Tara Alan

    9. อินโดนีเซีย

    “บุโรพุทโธ” เรียกได้ว่าเป็นมหาสถานของศาสนาพุทธ ที่นี่มีความยิ่งใหญ่อลังการเทียบเท่ากับนครวัด และเป็นสถานที่มีประวัติศาสตร์การก่อสร้างที่ยาวนาน ผู้เขียนจับเครื่องบินจากบาหลี ไปยังเมืองยอกจากาตาร์ ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง เพื่อมายังสถานที่แห่งนี้ โดยการออกแบบบุโรพุทโธนั้น หากมองจากภาพมุมสูง บุโรพุทโธมีลักษณะเป็น “Mandara” (แมนดาลา) ตามคติพุทธมาหายานและตันตระยาน ซึ่งป็นสัญลักษณ์ของ “จักรวาล” โดยพระเจดีย์องค์ใหญ่บนยอดสูงสุดนั้นแทนองค์ “พระอาทิพุทธเจ้า”

    ภาพมุมสูงของบุโรพุทโธ โครงสร้างแบบ manala ภาพจาก wikimedia
  • Mandala เป็นสัญลักษณ์ของจักรวาลสำหรับชาวพุทธและชาวฮินดู ส่วนใหญ่มีลวดลายหรือการออกแบบทางเรขาคณิตที่มีสีสันและมีรายละเอียด แมนดาราดั้งเดิมคือสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีวงกลม และการออกแบบนั้นต้องมีความสมมาตรและสมดุลเท่ากันทุกด้าน
  • วัดบุโรพุทโธมีพระพุทธรูป 504 สูญหายไป 43 องค์ และถูกทำลายไปมากกว่า 300 องค์ (ส่วนใหญ่เศียรถูกทำลาย) ลักษณะศิลปะที่โดดเด่นที่สุด คือ ความเรียบง่าย และผสมผสานระหว่างความสงบ อ่อนโยน ทำให้เห็นความงดงามของรูปปั้น ลักษณะทางกายภาพอีกประการหนึ่งคือจุดบนหน้าผากตรงระหว่างคิ้ว แม้ว่ารูปปั้นจะคล้ายคลึงกันแต่ก็มีปางต่างกัน

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน

    ผู้เขียนเดินไปชมยังแต่ละชั้นของบุโรพุทโธ จนกระทั่งถึงชั้นบนสุด มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบ ภาพแกะสลักและรายละเอียดต่างๆหายไป กลายเป็นภาพเรขาคณิตแบบเรียบง่าย เปรียบเหมือนชั้นที่แสดงสัญลักษณ์ของการหลุดพ้น มันโล่ง กว้าง และจุดที่เป็นเจดีย์พระประธานตรงกลาง ไม่พบว่ามีพระพุทธรูปอยู่ แต่เจดีย์ที่อยู่รอบๆ เป็นวงกลม 3 ชั้น รวม 72 เจดีย์ สองชั้นแรกช่องในเจดีย์เป็นรูปเพชร ในขณะที่เจดีย์ชั้นสูงสุดเป็นรูปสี่เหลี่ยม

    มีหนึ่งหรือสององค์ได้รับความเสียหายอย่างมาก ทำให้พระพุทธรูปปางปฐมเทศนาแสดงธรรมแต่เดิมอยู่ภายในและบังเอิญปรากฏให้เห็น จึงเป็นจุดไฮไลท์สำคัญแห่งนี้

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    ปางประทานพร = วรทมุทรา (Varada Mudra) ทรงประทานพรให้หมอชีวกโกมารภัจจ์และพระอานนท์ให้เข้าเฝ้าเพื่อทูลปัญหาได้ทุกเวลา และให้นางวิสาขาถวายเครื่องอุปโภคแก่พระสงฆ์ได้
    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    ปางมารวิชัย = ภูมิสปรรศมุทรา (Bhumisparsa Mudra) พระดัชนีชี้ไปที่ดิน ให้พระแม่ธรณีเป็นพยานถึงการตรัสรู้ ภาพจาก Oliver Davis
    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    ปางสมาธิ = ธยานมุทรา (Dhyana Mudra) เป็นเหตุการณ์เมื่อทรงประทับบำเพ็ญสมาธิใต้ต้นโพธิ์ ภาพจาก Michael Hess
    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    ปางประทานอภัย = อภยมุทรา (Abhaya Mudra) ภาพจาก https://nibbana.id/mudra-posisi-tangan-sang-buddha/
    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    ปางแสดงธรรม = วิตรรกมุทรา (Vitarka Mudra) พระพุทธองค์ทรงตรัสแสดงพระธรรมคำสอนให้แก่พระสาวก หรือพุทธศาสนิกชนทั่วไป ภาพจาก Tempo Dulu
    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    ปางปฐมเทศนา = ธรรมจักรมุทรา (Dharmachakra Mudra) ทรงแสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตร อันเป็นปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ 

    10. กัมพูชา

    ปัจจุบันชาวกัมพูชากว่าร้อยละ 90 นับถือศาสนาพุทธ ในยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั้น เป็นยุคที่ศาสนาพุทธรุ่งเรือง มีพุทธศาสนสถานมากมาย และสถานที่ที่รู้จักกันทั่วโลกคือ ปราสาทบายน โดยมีรูปสลักที่ลักษณะพิเศษคือ พระพักตร์ยิ้ม พระเนตรปิดเหลือบลงต่ำ และนิยมเรียกกันว่า “ยิ้ม แบบบายน” ในยุคที่ปกครองโดยเขมรแดง ศาสนาถือเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย เขมรแดงจึงทำลายวัด พระพุทธรูป และเผาทำลายคัมภีร์ทางศาสนา

    ประเทศไทยเรารับศิลปะของเขมรมาในสมัยนครวัด เช่น พระพุทธรูปนาคปรก รวมถึงการปราสาทต่างๆ เช่น ปราสาทหินพิมาย และบางแห่งช่างฝีมือไทยก็เป็นคนสร้างขึ้นมาเช่น เขาพระวิหาร

    หากใครเคยไปเที่ยวนครวัด น่าจะเคยเห็นเทวรูปของพระวิษณุ เนื่องจากนครวัดนั้นสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระวิษณุ แต่หลังจากนั้น นครวัดก็ได้ปรับเปลี่ยนจากเทวสถานกลายเป็นศาสนสถาน

         

    พระพุทธในหอคอยบากัน ที่กำลังทำการบูรณะ ภาพจาก phnompenhpost
    พระพุทธในหอคอยบากัน ที่กำลังทำการบูรณะ ภาพจาก tourismcambodia.com

    สถานที่ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือพระบรมหาราชวัง อารมณ์เหมือนกับเดินในพระบรมมหาราชวังของเรานั่นเอง ที่นี่มีวัดเจดีย์เงิน (วัดพระแก้ว) ซึ่งมีพระแก้วมรกต โดยตั้งใจจะจำลองให้เหมือนพระแก้วมรกตที่ในกรุงเทพฯ และหล่อขึ้นจากแก้วคริสตัลสีเขียวจากฝรั่งเศส  ทำให้มีพุทธลักษณะที่ต่างออกไปจากพระแก้วมรกตที่อยู่ในไทย

    พระแก้วมรกต กัมพูชา ภาพจาก wikipedia

    11. ลาว

    ปิดท้าย พุทธศิลป์ ในต่างแดน กันที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรา ศิลปะของลาวนั้นโดดเด่น และสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมล้านช้างได้เป็นอย่างดี พระพุทธรูปของลาวที่ประดิษฐานอยู่ในเมืองไทย อาทิ พระเสริม และพระแสน ในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร

    พระเสริม (องค์ใหญ่) และ พระแสน (องค์เล็ก) ภายในพระวิหารวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร พระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง ภาพจาก wikiwand

    นอกจากพระพุทธรูปเก่าแก่ งดงามแล้ว ผู้เขียนยังชื่มชอบในความมีเอกลักษณ์ของรูปปั้นของลาว กล่าวได้ว่า แม้จะไม่ได้สัดส่วนสวยงาม แต่ก็มีความหมายนัยสะท้อนให้เห็นถึงศิลปะท้องถิ่นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะพระพักตร์ที่มีลักษณะแบบพื้นบ้าน

    พระพุทธรูป พุทธศิลป์ ในต่างแดน
    วัดพู
    วัดเขมรศตวรรษที่ 10 ทางตอนใต้ของลาว เป็นมรดกโลก วัดพูเป็นวัดที่อุทิศให้กับพระอิศวรซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าในศาสนาฮินดูตรีมูรติ ในศตวรรษที่ 13 ได้มีการดัดแปลงเป็นวัดพุทธ ทุกวันนี้วัดก็ยังเป็นสถานที่สักการะของชาวพุทธในท้องถิ่น ภาพจาก Andreas Simon
    พระพุทธรูปเก่าแก่ วัดพระหนองปลาผา ภาพจาก Stefan Magdalinski

    พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของลาว คือ พระบาง ซึ่งถ้าพูดถึงพระบางแล้ว ก็ต้องมีเรื่องราวของพระแก้วมรกต ด้วย พระบางนั้นเป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ที่แต่เดิมกษัตริย์ลังกาส่งมาถวายแก่พระเจ้าแผ่นดินเขมร ต่อมาได้นำมาพระราชทานให้แก่พระเจ้าฟ้างุ้ม พระบางได้อัญเชิญมาประดิษฐานในไทย 2 ครั้ง และได้อัญเชิญกลับสู่ลานช้าง ในสมัย ร.1 และ ร.4 เหตุเพราะเชื่อว่า ผีรักษาพระบางและพระแก้ว ไม่ถูกกัน

    พระบาง (องค์จำลอง) ภาพจาก wiki

    เรื่องราวการสร้างของพระแก้วมรกต และพระบางนั้น แหล่งข้อมูลจะเป็น “ตำนาน” มากกว่า ผู้เขียนจึงขอยก คำบอกเล่าของหลวงปู่มั่น เรื่องประวัติความเป็นมาของพระแก้วมรกต มาเป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม หลวงปู่มั่นกล่าวว่า พระแก้วมรกต (จริงๆ สร้างด้วยหยก) สร้างโดยพระจุลนาคเถระ เป็นชาวลังกา เป็นที่น่าสังเกตว่า ในตำนานของพระบาง ก็เขียนว่าสร้างโดยพระจุลนาคเถระเหมือนกัน และมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน 5 แห่ง คล้ายๆ กันด้วย

    พระแก้วมรกต วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) ภาพจาก Lek Vatcharamed

    หลวงปู่มั่นท่านเล่าในเชิงปาฏิหาริย์ว่า พระจุลนาคเถระไม่ได้ตั้งใจจะเอาแก้วมรกตมาหล่อ เพราะเป็นของหายาก บอกบุญตามแต่ศรัทธา จะเป็นแก้วอะไรก็ได้ ร้อนถึงพระอินทร์อยู่บนสวรรค์ มาอาสาเป็นช่างหล่อ และพระองค์มีแก้วอยู่ดวงหนึ่ง ขออนุโมทนาเป็นกุศลด้วย พระอินทร์ไม่ได้เป็นช่าง แต่ช่างคือเทพบุตรชื่อ วิษณุกรรม ส่วนแก้วก็ไม่ใช่ของพระอินทร์ แต่เป็นแก้วอยู่ในถ้ำจิตรกูฏหรืออินทสารนี้ละ ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ) ไม่มั่นใจ ท่านใดสนใจก็อ่านเพิ่มเติมได้ที่ link นี้ หลวงปู่มั่น บอกเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระแก้วมรกต

    พระแก้วมระกต วัดพระแก้ว จ.เชียงราย เจ้าเมืองเชียงรายได้ไปอัญเชิญพระแก้วมรกตมาจากเมืองกำแพงเพชร และนำมาซ่อนไว้ที่วัดป่าเยี้ยะ เพราะเกรงว่าจะตกอยู่ในมือของอริราชศัตรู จนกระทั่ง พ.ศ.1977 ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ จึงได้ค้นพบพระแก้วมรกต

    พระแก้วมรกตถูกอัญเชิญจากเมืองปาฏลีบุตร มายังลังกา ต่อมาเจ้าเมืองพุกามได้ส่งสมณฑูตไปขอพระแก้วมรกตจากเจ้าเมืองลังกา แต่ในขณะสำเภาที่บรรทุกได้พัดหลงไปเกยอยู่ที่อ่าวเมืองกัมพูชา หลังจากนั้นพระแก้วมรกตได้ถูกอันเชิญไปยังกรุงศรีอยุธยา กำแพงเพชร เชียงราย ลำปาง เชียงใหม่ ลาว และกรุงรัตนโกสินทร์ ตามลำดับ

    สิ่งที่หลวงปู่มั่น ท่านบอกกล่าวไว้อีกอย่างก็คือ

    “พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ว่างจากพระอริยบุคคล พระอริยบุคคลมีอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยภัยแห่งสงคราม”